สปสช. ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมยกระดับ 30 บาท

บอร์ด สปสช. ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 จ.เพชรบูรณ์ พร้อมเยี่ยมชมหน่วยบริการนวัตกรรม ร้านยาและคลินิกทันตกรรม ก่อนคิกออฟ มี.ค.นี้
.
วันที่ 11 - 12 กุมภาพันธ์ 2567 นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนเพื่อยกระดับบัตร 30 บาท รักษาทุกโรค ภายใต้โครงการ “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ระยะที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานแก่สถานพยาบาลเอกชน และอำนวยความสะดวกการสมัครเข้าร่วมจัดบริการ ณ ลีวิสท์ รีสอร์ท เพชรบูรณ์ จัดโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ฝ่ายบริหารงานทะเบียน สปสช.เขต 2 พิษณุโลก ร่วมกับ สภาวิชาชีพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นพ.วิชาญ คิดเห็น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้การต้อนรับและเปิดการประชุม ผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ประกอบการร้านยา, คลินิกพยาบาลและผดุงครรภ์, คลินิกเทคนิคการแพทย์, คลินิกกายภาพบำบัด, คลินิกเวชกรรม, คลินิกทันตกรรม, คลินิกแพทย์แผนไทย ร่วมประชุมภายในงานและผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมกว่า 200 คน
.
ทพ.สันติ ศิริวัฒนไพศาล ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 2 พิษณุโลก กล่าวว่า สปสช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลสิทธิบัตรทอง ได้สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว โดยลงพื้นที่ชี้แจงนโยบายแก่ผู้บริหาร บุคลากรทุกสังกัด ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล พร้อมกับเชิญชวนคลินิกเอกชนในพื้นที่ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 592 แห่ง สมัครขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมแล้ว 29 แห่ง ได้แก่ ร้านยา 20 แห่ง, คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 5 แห่ง, คลินิกทันตกรรม 2 แห่ง และคลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก 2 แห่ง การประชุมครั้งนี้จะได้ชี้แจงหลักเกณฑ์และสร้างความมั่นใจให้กับคลินิกเอกชน พร้อมกับอำนวยความสะดวกการขึ้นทะเบียนภายในงาน
.
“สปสช. ได้อำนวยความสะดวกแก่หน่วยบริการให้มากที่สุด ทั้งระบบการรับสมัครและขึ้นทะเบียนหน่วยบริการได้ปรับให้เป็นแบบ One Stop Service ลดความยุ่งยากในเรื่องเอกสารต่างๆ ลดระยะเวลาในการตรวจประเมินและประกาศขึ้นทะเบียนหน่วยบริการ นอกจากนี้ พัฒนาระบบ new-eClaim ซึ่งจะอำนวยความสะดวกแก่หน่วยบริการในการเบิกเงิน รวมทั้งเวลาการจ่ายเงินค่าบริการให้หน่วยบริการภายใน 3 วัน เพื่อให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอเชิญชวนสถานพยาบาลเอกชนในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ เข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบ สปสช. เพื่อร่วมจัดบริการดูแลประชาชนไปด้วยกัน” ทพ.สันติ กล่าว
.
นอกจากนี้ การลงพื้นที่ของ นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ บอร์ด สปสช. ยังนำคณะสื่อมวลชนติดตามความพร้อมของร้านยาที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พบกับเภสัชกรหญิงพจนาลัย อนุสรณ์พาณิชกุล ร้านเรือนเภสัชกร กล่าวว่า ตนเองขอเป็นตัวแทนเภสัชกรชุมชนในร้านยาขอขอบคุณ สปสช. แทนประชาชนทุกคน ที่มีโครงการดีๆ เหล่านี้ เพราะจากการทำงานเป็นเภสัชกรชุมชนในร้านยามานาน รู้ปัญหาของประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ไม่สะดวกไปรับบริการที่โรงพยาบาล เช่น กลุ่มผู้ใช้แรงงาน รายได้น้อย หากหยุดงาน 1 วัน เพื่อไปโรงพยาบาลจะต้องสูญเสียรายได้สำหรับการดูแลคนทั้งครอบครัว อีกทั้งคนพลัดถิ่น คนไร้บ้านที่ไม่มีแหล่งที่อยู่อาศัยแน่นอน เมื่อมีโครงการนี้เกิดขึ้น คนกลุ่มนี้จะได้มีโอกาสเข้าถึงบุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น ได้ใช้ยาที่เหมาะสมและปลอดภัย ที่ผ่านมาการจัดบริการของร้านเรือนเภสัชกรกับ สปสช. ไม่ว่าจะเป็นโครงการร้านยาลดความแออัด ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ และให้บริการสร้างเสริมสุขภาพ แม้จะเป็นร้านยาเดี่ยว ไม่มีผู้ช่วยใดๆ เภสัชกรทำทุกอย่างเองทุกขั้นตอน ไม่ได้คิดว่าจะเป็นภาระ คิดเพียงว่าจะเกิดประโยชน์อย่างมากกับประชาชน
.
อีกทั้งลงพื้นที่พบกับ ทพญ.ประกายดาว ศรีเงิน คลินิกทันตกรรมดาวเด็นทัลคลับ เพื่อพูดคุยชี้แจงแนวทางตามนโยบายฯ และเชิญชวนเข้าร่วมจัดบริการ พร้อมกับเยี่ยมชมการดำเนินงานของคลินิก ซึ่งมีการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2557 ให้บริการทันตกรรมทั่วไป จัดฟัน และเฉพาะทาง โดยมีบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่รวม 15 คน ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ มีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียสำหรับการนัดหมายออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการวิถีใหม่ทุกช่วงวัยทั้งวัยเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ
.
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานแก่สถานพยาบาลเอกชน ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมประชุมสมัครขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว จำนวน 29 แห่ง ประกอบด้วย คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 15 แห่ง ร้านยา 5 แห่ง คลินิกทันตกรรม 4 แห่ง คลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก 2 แห่ง คลินิกเวชกรรม 1 แห่ง คลินิกกายภาพบำบัด 1 แห่ง และคลินิกเทคนิคการแพทย์ 1 แห่ง ทั้งนี้ ยังคงเปิดรับสถานพยาบาลเอกชนอื่นๆ ในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ สมัครได้ที่ https://ossregister.nhso.go.th หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ 055-245111.

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *